การซื้อประกันนั้นถือเป็นการลงทุนให้กับตัวเองในอีกรูปแบบหนึ่งของชีวิต แม้จะไม่ได้ผลตอบแทนสูงเหมือนการลงทุนในหุ้น กองทุนรวม หรือหลักทรัพย์ต่าง ๆ แต่การลงทุนในประกันนั้นเป็นสิ่งที่เราจะได้รับกลับมานั้นคือ “ความสบายใจ” จากการที่เราได้ป้องกันความเสี่ยง ที่อาจจะเกิดขึ้นจากเหตุการณ์ไม่คาดฝัน นอกจากนี้ในปัจจุบันยังมีประกันควบการลงทุนที่เราจะได้ผลตอบแทนจากการลงทุนควบคู่ไปกับการป้องกันความเสี่ยงอีกด้วย คำถามของเพื่อน ๆ หลายคนที่อัศวินมักได้รับมาเสมอ คือ ถ้าเราจะเลือกซื้อประกันด้วยตัวเอง ต้องเช็คเรื่องอะไรบ้าง อัศวินก็อยากจะแนะนำเช็คลิสต์ให้เพื่อน ๆ ได้ลองนำไปใช้ดูกับตัวเองนะครับ
สำรวจความเสี่ยงของตัวเราเองก่อน
อัศวินอยากจะบอกว่า การซื้อประกันคือการที่เราจะโอนย้ายความเสี่ยงของเราไปให้ทางบริษัทประกัน สิ่งแรกที่เราจะต้องทำก็คือวิเคราะห์ก่อนว่าเรามีความเสี่ยงอะไรบ้างในชีวิต ตัวอย่างเช่น หากเราทำงานเป็นพนักงานขาย ต้องเดินทางไปต่างจังหวัดบ่อย ๆ ต้องขับรถไปไหนมาไหนตลอดเวลา เราอาจจะมีความเสี่ยงในเรื่องอุบัติเหตุได้ การทำประกันอุบัติเหตุจึงเป็นสิ่งที่จะต้องอยู่ในแผนป้องกันความเสี่ยงของเรา
หรืออีกตัวอย่างหนึ่งก็คือ หากเราเป็นหัวหน้าครอบครัว ต้องทำงานเพื่อหาเงินมาดูแลสมาชิกอีกหลาย ๆ คนในบ้าน ถ้าอยู่ ๆ เราป่วยขึ้นมา ก็จะทำให้เราจะต้องนำเงินมารักษาและอาจจะทำให้ครอบครัวขาดรายได้ ก็เป็นความเสี่ยงในเรื่องสุขภาพและชีวิตที่เราควรจะต้องหาทางป้องกันนะครับ
เลือกประกันที่ครอบคลุมความต้องการ
เมื่อเราเห็นความเสี่ยงของเราอย่างรอบด้านแล้ว ก็ต้องลองมานั่งคิดกันต่อนะครับว่า หากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันที่เกิดขึ้นจากความเสี่ยงจริง ๆ จะกระทบกับเราและคนรอบตัวมากแค่ไหน ซึ่งเราจะได้นำมาประเมินกันต่อได้ว่า เราจะต้องมีหลักประกันมากเท่าไหร่ ตัวอย่างเช่น เพื่อน ๆ บางคนอาจจะมีลูกที่ยังเล็กอยู่ ซึ่งถ้าหากเราป่วยขึ้นมาไม่สามารถทำงานได้ ก็จะไม่มีเงินมาเลี้ยงดูลูก รวมถึงการส่งลูกไปเรียนหนังสือ
ผลกระทบนี้สูงมาก เราเองก็ต้องพิจารณาในเรื่องของการทำประกันให้ครอบคุมความเสี่ยงตรงนี้ แต่ถ้าเป็นกรณีที่แตกต่างไป เช่น ลูกเราอยู่ในวัยทำงานและรับผิดชอบตัวเองได้แล้ว เราอาจจะไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องการเงินที่ต้องมีให้เขาก็ได้ อาจจะพิจารณาทำประกันให้ครอบคลุมค่าใช้จ่ายในส่วนของค่ารักษาพยาบาลก็พอครับ