ไม่มีข้อมูล

ค้นหาในทุกหมวด
*โปรดระบุคำค้นหา
31 พฤษภาคม 2567

บริหารความเสี่ยงด้านการลงทุน จากผลกระทบของ ‘เอลนีโญ’ พร้อมรู้จักประกันที่มีโอกาสได้รับผลตอบแทนจากการลงทุน

การเปลี่ยนแปลงของธรรมชาติเป็นตัวแปรที่สำคัญกับเศรษฐกิจและตลาดการเงินมากขึ้น วันนี้เราจึงจะขอพาทุกคนไปจับตามองสถานการณ์ ‘เอลนีโญ’ ที่เพิ่มความรุนแรงมากขึ้นทุกปี ว่าจะส่งผลกระทบกับค่าใช้จ่ายและการลงทุนของเราได้อย่างไรบ้าง เพื่อที่เราจะได้วางแผนทางการเงิน ปรับเปลี่ยนการลงทุนได้ทันท่วงที หรือสามารถช่วยให้เรามองเห็นโอกาสในการสร้างผลตอบแทนจากการเปลี่ยนแปลงทางธรรมชาติครั้งนี้ได้

 

นอกจากนี้ เราจะขอพาไปรู้จัก Unit Linked ประกันที่มีโอกาสได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนที่สามารถปรับเปลี่ยนได้กัน

 

ก่อนอื่นเราขอพาทุกคนไปดูผลกระทบจากเอลนีโญ ทั้งทางตรงและทางอ้อม ที่ส่งผลกระทบในด้านของเศรษฐกิจ ค่าใช้จ่าย และการลงทุนกันก่อน

 

ผลกระทบด้านเศรษฐกิจ ค่าใช้จ่าย และการลงทุน

 

●        ผลกระทบโดยตรงจากเอลนีโญในภาคธุรกิจและอุตสาหกรรมไทยที่ได้รับ

เอลนีโญส่งผลให้ผลผลิตทางภาคการเกษตรตกต่ำจากภาวะขาดแคลนน้ำ และทำให้ราคาผลผลิตทางภาคการเกษตรสูงขึ้น โดยราคาข้าวขาว 5% ในประเทศไทยในปี 2565 ได้มีปรับเพิ่มขึ้น 37% จาก 1,500 บาทต่อ 100 กิโลกรัมเป็น 2,000 – 2,100 บาทต่อ 100 กิโลกรัมเลยทีเดียว

เอลนีโญยังทำให้กระบวนการผลิตของอุตสาหกรรมอื่นๆ มีภาวะขาดแคลนน้ำและสินค้าราคาแพง ซึ่งจะส่งผลกระทบไปยังภาคใช้จ่ายของครัวเรือนต่อไปอีกด้วย

 

●        ผลกระทบของเอลนีโญในประเทศอื่นๆ และอาจส่งผลกลับมายังประเทศไทย

เอลนีโญมักจะทำให้มีฝนตกหนักมากในประเทศเปรู ชิลี และเอกวาดอร์ ดังนั้น ประเทศในอเมริกาใต้จึงมักจะมีผลผลิตทางการเกษตร เช่น ถั่วเหลือง น้ำตาล และเนื้อสัตว์ที่ดี ซึ่งก็อาจจะเป็นผลบวกกับบริษัทไทยถ้าต้องใช้สินค้าเหล่านี้ในกระบวนการผลิต แต่ขณะเดียวกันก็ทำให้ผลผลิตของสินค้าเหล่านี้จากไทยส่งออกไปแข่งขันได้ยากขึ้น เนื่องจากราคาผลผลิตของไทยจะเพิ่มสูงขึ้นจากผลกระทบของเอลนีโญนั่นเอง

 

นอกจากนี้ เอลนีโญจะทำให้สัตว์ทะเลอพยพไปทางเหนือและใต้ตามกระแสน้ำเย็นมากขึ้น ทำให้ราคาปลาทะเลมีความผันผวนมากขึ้น ซึ่งจะส่งผลกระทบโดยตรงต่อบริษัทที่ใช้อาหารทะเลเหล่านี้ในกระบวนการผลิต เช่น อุตสาหกรรมอาหารและร้านอาหาร ขณะที่ส่งผลกระทบทางอ้อมต่ออุตสาหกรรมที่มีความเกี่ยวเนื่อง เช่น บรรจุภัณฑ์ ขนส่ง เป็นต้น

 

●        ผลกระทบต่อตลาดเงิน ตลาดทุน และการประกันภัย

ภัยธรรมชาติที่รุนแรงทำให้บริษัทประกันมีภาระความรับผิดชอบต่อความเสียหายเพิ่มมากขึ้นจากปีปกติ และเศรษฐกิจที่หยุดชะงักจากภัยธรรมชาติจะกระทบผลการดำเนินงานของบริษัทต่างๆ ซึ่งอาจกลายเป็นหนี้เสียในภาคการธนาคารได้

 

แต่แม้ว่าธุรกิจต่างๆ จะได้รับผลกระทบจากเอลนีโญ แต่หากธุรกิจมีกลยุทธ์ในการวางแผนธุรกิจก็สามารถบริหารจัดการความเสี่ยงจากผลกระทบของเอลนีโญได้ แถมในบางธุรกิจยังสามารถสร้างผลตอบแทนมากขึ้นจากเอลนีโญได้อีกด้วย

 

โอกาสในการสร้างผลตอบแทน

เอลนีโญเป็นปรากฏการณ์ที่ส่งผลต่อ ‘ปริมาณน้ำฝน’ ในหลายทวีป และมีผลกระทบต่อธุรกิจในแต่ละประเทศแตกต่างกันไปอย่างในทางตอนใต้ของทวีปอเมริกาใต้ สหรัฐอเมริกา แอฟริกา และเอเชียกลาง อาจจะมีปริมาณน้ำฝนเพิ่มขึ้น ส่วนออสเตรเลีย อินโดนีเซีย บางส่วนของเอเชียใต้ และอเมริกากลาง อาจเกิดภัยแล้งอย่างรุนแรง นักลงทุนจึงมองว่าธุรกิจที่สามารถกักเก็บน้ำสำรองไว้จนส่งน้ำเข้าประเทศอื่นๆ ได้ หรือธุรกิจที่เป็นความต้องการสูงที่สามารถมีน้ำในการผลิตหรือมีสิ่งอื่นมาแทนน้ำในการผลิตได้ อาจสร้างผลตอบแทนได้ดีในช่วงนี้ เช่น

 

●        โรงไฟฟ้าที่ไม่ใช้พลังงานน้ำ

ภัยแล้งที่รุนแรงกว่าปกติจะส่งผลกระทบต่อธุรกิจพลังงาน เพราะโรงไฟฟ้าพลังน้ำจะสามารถผลิตไฟฟ้าได้น้อยกว่าปีปกติ ซึ่งอาจก่อให้เกิดการขาดแคลนไฟฟ้าในบางพื้นที่ ส่งผลให้หุ้นโรงไฟฟ้าพลังงานทางเลือกที่ใช้น้ำเป็นตัวปั่นกระแสไฟฟ้าอาจตกลงไปด้วย แต่หากโรงไฟฟ้าสามารถใช้วัตถุดิบอื่นๆ เช่น ก๊าซธรรมชาติ ถ่านหิน พลังงานลม ซึ่งแม้จะมีราคาแพงกว่าหรือมีข้อเสียข้อจำกัดบางอย่างมาทดแทนได้ ก็ยังสามารถสร้างผลตอบแทนจากความต้องการพลังงานสูงนี้ได้

 

●        โรงงานน้ำตาล

หุ้นโรงงานน้ำตาลและอ้อยของไทยจะได้ประโยชน์จากราคาที่ปรับตัวขึ้น โดยทางศูนย์วิจัย CIMB Thai และบล. CGS-CIMB เชื่อว่า ราคาน้ำตาลในตลาดโลกมีโอกาสปรับตัวขึ้นไปที่ 20 – 23 เซนต์/ปอนด์ เนื่องจากผู้ผลิตและส่งออกน้ำตาลอันดับ 1 ของโลกอย่างบราซิลจะประสบปัญหาท่าเรือที่แออัดและผลผลิตที่น้อยลง ส่วนผู้ผลิตน้ำตาลอันดับ 2 ของโลกอย่างอินเดีย กลับกำลังใช้มาตรการลดโควตาการส่งออก จึงเป็นโอกาสของไทยในฐานะผู้ส่งออกน้ำตาลอันดับ 3 ของโลกได้

 

●        โรงงานอาหารสัตว์

เอลนีโญทำให้ต้นทุนการเลี้ยงปศุสัตว์สูงขึ้น เนื่องจากขาดแคลนน้ำในการปลูกข้าวโพดหรือกากถั่วเหลืองที่จะนำมาใช้เป็นอาหารสัตว์ แต่หากโรงงงานอาหารสัตว์มีการปรับตัวผลิตอาหารสัตว์ได้อย่างต่อเนื่อง ก็มีโอกาสที่จะสามารถสร้างผลตอบแทนได้เช่นกัน

 

ซึ่งแม้ว่าบางธุรกิจจะมีโอกาสในการสร้างผลตอบแทนจากเอลนีโญมากขึ้น แต่ธุรกิจก็มีปัจจัยสำคัญที่กระทบต่อธุรกิจไม่เหมือนกัน ก่อนเราจะลงทุนให้ลองศึกษาปัจจัยอื่นๆ และเลือกการลงทุนที่สามารถปรับเปลี่ยนให้ได้ตามสถานการณ์เพื่อบริหารความเสี่ยงด้านการลงทุนจะดีที่สุด วันนี้เราจึงจะขอพาไปรู้จัก Unit Linked ประกันที่มีโอกาสได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนที่สามารถปรับเปลี่ยนได้กัน

 

Unit Linked ประกันที่มีโอกาสได้รับผลตอบแทนจากการลงทุน

●        สร้างความอุ่นใจด้านการเงินจากผลกระทบเอลนีโญ

การมีประกันที่คุ้มครองชีวิตช่วยทำให้อุ่นใจหากเราเกิดอันตรายจากเอลนีโญที่อาจรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ เช่น การเป็น heatstroke จนถึงขั้นเสียชีวิตอย่างฉับพลัน เราก็ยังจะได้รับผลประโยชน์จากประกันด้านการคุ้มครองชีวิต ให้ครอบครัวของเราสามารถดูแลตัวเองในตอนที่เราไม่อยู่แล้วได้

 

●        มีโอกาสได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนที่สามารถปรับเปลี่ยนได้

สำหรับเบี้ยประกันของกรมธรรม์ Unit Linked จะมีการหักค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการประกันชีวิตก่อน แล้วส่วนที่เหลือจึงนำไปหาผลตอบแทน โดยผู้ถือกรมธรรม์สามารถเลือกพอร์ตการลงทุนที่เหมาะสมกับวัตถุประสงค์ และความสามารถในการรับความเสี่ยงของตัวเอง และอาจสร้างผลตอบแทนที่สูงกว่าได้ในระยะยาว

 

นอกจากนี้ Unit Linked ยังสามารถปรับเปลี่ยนทุนประกันชีวิตให้สอดคล้องกับความต้องการในแต่ละช่วงชีวิตได้ โดยบริษัทประกันส่วนใหญ่อนุญาตให้ปรับลดทุนประกันชีวิตได้ ตามความต้องการความคุ้มครองที่ลดลง เมื่ออายุมากขึ้นและมีทรัพย์สินมากขึ้น หรือมีภาระน้อยลง หรือสามารถหยุดชำระเบี้ยประกันโดยความคุ้มครองยังดำเนินต่อไป หากมีเงินลงทุนสะสมไว้เพียงพอ และถอนมาจ่ายเป็นเบี้ยประกันได้

 

อย่างไรก็ตาม ธรรมชาติมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว การติดตามข่าวสารและปรับตัวอยู่เสมอ ย่อมส่งผลดีกับการวางแผนด้านการเงินและการลงทุนของเรา รวมไปถึงการมี Unit Linked ที่สามารถปรับเปลี่ยนการลงทุนได้ ก็เป็นทางเลือกหนึ่งในการวางแผนการเงินที่เข้ากับสถานการณ์ที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอได้ดี

บทความด้านการลงทุนที่สำคัญ