ลูกไหนหรือลูกพลัม (Plum) เป็นผลไม้ตระกูลเดียวกับ ลูกพรุน ลูกพีช หรืออัลมอนด์ ซึ่งเป็นผลไม้ขนาดเล็ก เมื่อผลสุกจะมีรสชาติหวานอร่อยและยังอุดมไปด้วยคุณประโยชน์ที่ดีต่อสุขภาพ มีรสชาติอร่อย แถมยังนำไปแปรรูปได้ โดยวันนี้เราจะพามารู้จักกับลูกไหนหรือลูกพลัม ว่ามีประโยชน์อย่างไร และมีสรรพคุณที่เป็นประโยชน์อย่างไรบ้าง
ลูกไหน มีลักษณะอย่างไร ?
ลูกไหนมีอีกชื่อคือ ลูกพลัม เป็นผลไม้ที่มีคุณค่าทางอาหารสูงและดีต่อสุขภาพ มีลักษณะเป็นผลไม้ไซส์ขนาดกลาง มีหลายสีตามสายพันธุ์ เช่น เขียว ม่วง เหลือง ไปจนถึงสีดำ มีรสชาติหวาน และถ้านำลูกไหนไปแปรรูปโดยการตากแห้งก็จะเรียกว่า ลูกพรุน (Prunus) ที่มีความเข้มข้นของแร่ธาตุและไฟเบอร์มากกว่าและสามารถเก็บรักษาได้นานกว่า เนื่องจากลูกพรุนมีน้ำต่อหน่วยน้ำหนักน้อยกว่า ส่งผลให้มีความเข้มข้นมากกว่าลูกไหนนั่นเอง
ความแตกต่างของสารอาหารในลูกไหนและลูกพรุน
ลูกไหน 100 กรัม ให้พลังงาน 46 กิโลแคลอรี ประกอบไปด้วย น้ำตาล 10 กรัม คาร์โบไฮเดรต 11 กรัม โปรตีน 1 กรัม ไขมัน 0 กรัม วิตามิน A วิตามิน K วิตามิน C แมกนีเซียม และแร่ธาตุอื่น ๆ อีกมากมาย ในทางกลับกันลูกพรุนที่ผ่านจากการตากแห้ง 100 กรัม ให้พลังงาน 230 กิโลแคลอรี ประกอบไปด้วย คาร์โบไฮเดรต 61 กรัม น้ำตาล 38 กรัม โปรตีน 2.2 กรัม ไขมัน 0.4 กรัม วิตามิน A วิตามิน C วิตามิน K แมกนีเซียม และแร่ธาตุอื่น ๆ
สังเกตได้ว่า ในลูกพรุนจะมีคาร์โบไฮเดรต น้ำตาล และแคลอรีมากกว่า แต่ไม่ว่าจะลูกไหนหรือลูกพรุนก็มีสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายเหมือนกัน
ประโยชน์ของลูกไหน หรือ ลูกพลัม
ลดความดันในเลือดและส่งเสริมสุขภาพหัวใจ - ในลูกไหนประกอบด้วยโพแทสเซียมที่ช่วยควบคุมอัตราการเต้นของหัวใจให้เป็นปกติ ช่วยควบคุมความดันโลหิต ลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหลอดเลือดสมอง และมีไฟโตเคมิคอล (Phytochemicals) ที่ช่วยลดการอักเสบที่เป็นต้นเหตุของการเกิดโรคหัวใจ
ป้องกันการเกิดโรคมะเร็ง - ในลูกไหน มีสารแอนโทไซยานิน (Anthocyanin) ที่ช่วยป้องกันการก่อเกิดมะเร็งและป้องกันการลุกลามของเซลล์มะเร็ง ทั้งมะเร็งต่อมลูกหมาก มะเร็งผิวหนัง
ดีต่อการลดน้ำหนัก - ด้วยพลังงานที่น้อยในลูกไหนจึงเป็นผลไม้ที่ดีต่อการลดน้ำหนัก แถมมีรสชาติที่หวานแต่ไม่ทำให้ระดับน้ำตาลและอินซูลินสูงขึ้น จึงเหมาะสำหรับคนที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก
บำรุงสุขภาพกระดูก – ในลูกไหนมีวิตามินเค ฟอสฟอรัส และแคลเซียม ที่ช่วยลดการสูญเสียมวลกระดูกและฟื้นฟูมวลกระดูกได้ดีกว่าแอปเปิล กีวี และอโวคาโด
ช่วยลดอาการท้องผูก – เนื่องจากเป็นผลไม้ที่มีไฟเบอร์สูง ซึ่งมีส่วนช่วยในการรักษาอาการท้องผูกและยังมีสารต้านอนุมูลอิสระอย่างฟีนอลิก (Phenolic) ที่ประกอบไปด้วยกรดต่าง ๆ ที่มีฤทธิ์เป็นยาระบายที่ช่วยรักษาอาการท้องผูกและขับถ่ายดีขึ้น
ข้อควรระวังในการรับประทาน
· การบริโภคลูกไหนมากเกินไปหรือการบริโภคที่ไม่ระวัง อาจส่งผลกระทบต่อระบบทางเดินอาหารได้ เช่น มีแก๊ส ท้องเสีย หากกลืนลูกไหนแห้งหรือลูกไหนทั้งลูกก็อาจทำให้ลำไส้อุดตันได้
· ไม่เหมาะกับผู้ป่วยโรคไตเนื่องจากมีโพแทสเซียมสูง เพราะว่าไตไม่สามารถขับโพแทสเซียมออกจากร่างกายได้ เสี่ยงต่อการเกิดโพแทสเซียมตกค้างในร่างกาย เพราะฉะนั้นผู้ป่วยโรคไตควรระมัดระวังในการรับประทาน
· เกิดการแพ้ผู้ที่แพ้ผลไม้ตระกูลใกล้เคียง เช่น พีช แอปริคอต หรือเชอร์รี อาจแพ้ลูกไหนได้ จึงควรระมัดระวังในการบริโภคเนื่องจากลูกไหนมีแร่ธาตุหลากหลายและปริมาณสูง จึงอาจทำให้เด็กมีการถ่ายเหมือนทานยาระบาย ในกรณีที่เด็กมีอาการท้องผูกจริง ๆ สามารถนำน้ำลูกพรุนมาเจือจางก่อนแล้วจึงให้รับประทานได้
เมนูสมูทตี้ลูกไหน
อากาศร้อน ๆ อย่างนี้ การมีน้ำปั่นสุดแสนอร่อยวางไว้ที่โต๊ะและจิบเพิ่มพลังหรือเติมความสดชื่นระหว่างการทำงานคงจะดีไม่น้อย ถ้าเป็นเครื่องดื่มที่มีทั้งประโยชน์และดื่มคลายร้อนถือว่าสุดยอด วันนี้เราจึงนำสูตรสมูทตี้ลูกไหนมาฝากกัน
ส่วนผสม
· ลูกไหน 15 ลูก
· น้ำแข็ง 6 ก้อน
· น้ำเปล่า 2 ช้อนโต๊ะ
· โยเกิร์ต 150 กรัม
วิธีทำ
1. ล้างลูกไหนให้สะอาด เข้าปั่นพร้อมกับโยเกิร์ต
2. ใส่น้ำเปล่า น้ำแข็ง โดยถ้าสมูทตี้ข้นเกินไป สามารถเติมน้ำเปล่าเพิ่มเพื่อลดความเข้มข้นของสมูทตี้ได้
3. ใส่แก้วพร้อมเสิร์ฟ
สรุปแล้ว ลูกไหนหรือลูกพลัมก็คือผลไม้ชนิดเดียวกัน โดยถ้าเป็นผลิตภัณฑ์ตากแห้งเราก็จะเรียกว่า ลูกพรุน ซึ่งลูกไหนและลูกพรุนสามารถหาทานได้ง่ายตามตลาดทั่วไป รวมไปถึงผลิตภัณฑ์แปรรูปต่าง ๆ ซึ่งให้สารอาหารที่มีประโยชน์มากมาย แล้วอย่าลืมไปลองทำเมนูสมูทตี้ลูกไหนให้กับเพื่อนหรือคนที่คุณรักกันล่ะ สำหรับลูกค้ากรุงไทย-แอกซ่าประกันชีวิต ที่สนใจในการดูแลสุขภาพสามารถอ่านบทความด้านสุขภาพอื่น ๆ ได้ที่ https://www.krungthai-axa.co.th/th/health-advisories
แหล่งที่มาของข้อมูล
· เว็บไซต์ Annaffairfromtheheart
· เว็บไซต์ Webmd
· เว็บไซต์ Medthai
· เว็บไซต์ Verywellfit
http://bitly.ws/KoSF
