ไม่มีข้อมูล

ค้นหาในทุกหมวด
*โปรดระบุคำค้นหา
07 เมษายน 2566

เหา ไร เห็บ หมัด ภัยร้าย เเละบ่อเกิด โรคไข้รากสาดใหญ่ (Scrub Typhus)

 

ท่ามกลางโรคเกี่ยวกับทางเดินหายใจที่เราต้องรับมือกันเป็นประจำในช่วงส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ ยังมีอีกหนึ่งโรคที่มักเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่การท่องเที่ยวคึกคักเช่นนี้ นั่นก็คือโรคไข้รากสาดใหญ่ โดยเฉพาะนักเดินทางสายแคมป์ปิ้ง (Camping) แกลมปิ้ง (Glamping) ต้องระมัดระวังกันเป็นพิเศษ ด้วยเป็นโรคที่เกิดจากสัตว์ขนาดเล็กอย่างเหา ไร เห็บ และหมัด ดังนั้นเพื่อให้ทุกคนห่างไกลจากโรคนี้ เราได้นำข้อมูลที่เป็นประโยชน์มาฝากกัน เชื่อว่าจะช่วยให้หลายคนที่กำลังจะเดินทางไปสัมผัสและใกล้ชิดกับธรรมชาติมีความอุ่นใจมากขึ้น (scrub typhus คือ)

 

3 ชนิดของโรคไข้รากสาดใหญ่

              โรคไข้รากสาดใหญ่ หรือโรคสครับไทฟัส (Scrub Typhus) เป็นโรคที่เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียในกลุ่มริกเก็ตเซีย (Rickettsia) ที่อาศัยอยู่ในแมลงชนิดต่าง ๆ อย่างเหา ไร เห็บ หมัด ซึ่งเป็นพาหะที่นำเชื้อนี้มาสู่คน โดยแบ่งโรคนี้ออกเป็น 3 ชนิด ได้แก่

1.        ไข้รากสาดใหญ่ชนิดระบาด ชนิดนี้มีเหาเป็นพาหะ โดยเหาจะรับเชื้อมาจากคนที่เป็นโรคนี้จากการดูดเลือด จากนั้นเชื้อโรคจะเข้าไปอาศัยในทางเดินอาหารของเหา และเมื่อเหาดูดเลือด จะขับถ่ายเชื้อโรคออกมา เมื่อคนเกาจนเกิดเป็นแผล เชื้อโรคก็จะเข้าสู่ร่างกายทางผิวหนัง

2.        ไข้รากสาดใหญ่จากหนู เกิดจากเชื้อชนิด Rickettsia Typhi ที่อาศัยอยู่ในทางเดินอาหารของหมัดหนูและหมัดแมว ก่อให้เกิดโรคในสัตว์ และส่งต่อมาสู่คน นอกจากนี้ยังสามารถติดเชื้อจากการหายใจเอาของเสียของหมัดที่มีเชื้อโรคเข้าสู่ร่างกายด้วย

3.        ไข้รากสาดใหญ่จากป่าละเมาะ หรือไข้รากสาดพุ่มไม้ มีตัวไรอ่อนเป็นพาหะ จึงเรียกอีกชื่อหนึ่งว่าไข้รากสาดไรอ่อน (Chigger-borne Typhus) โดยเชื้อโรคจะอาศัยอยู่ในทางเดินอาหารของตัวไร ในระยะที่เป็นตัวอ่อน หรือไรแดง ซึ่งสามารถอาศัยอยู่บนตัวสัตว์ตระกูลฟันแทะ เช่น กระรอก กระแต ไรอ่อนจะดูดเลือดสัตว์เหล่านี้เป็นอาหาร และแน่นอนว่าบางครั้งไรที่อาศัยอยู่ตามใบไม้ ใบหญ้า ก็ติดมาสู่คนและดูดเลือดจากคนเป็นอาหาร

 

อาการของโรคไข้รากสาดใหญ่

              หลังจากที่คนเราถูกพาหะของโรคดูดเลือดประมาณ 10-12 วัน จะทำให้มีไข้สูง หนาวสั่น ปวดศีรษะ ปวดกล้ามเนื้อ ปวดเมื่อยตามตัว ปวดกระบอกตา ตาแดง คลื่นไส้อาเจียน ไอแห้ง ๆ ต่อมน้ำเหลืองบวม สำหรับแผลที่ถูกกัดจะค่อย ๆ นูนหรือใหญ่ขึ้น และมีลักษณะคล้ายผิวหนังที่ถูกบุหรี่จี้ (Eschar) แต่จะไม่รู้สึกเจ็บ ปวด หรือคัน ผู้ป่วยบางรายอาจหายไปเอง แต่ในกรณีที่เกิดการแทรกซ้อน จะส่งให้เกิดอันตรายถึงขั้นเสียชีวิตได้ ด้วยสาเหตุจากปอดอักเสบ เยื่อหุ้มสมองและสมองอักเสบ หรือการทำงานของอวัยวะเกิดการล้มเหลวและเลือดออก

 

การวินิจฉัยและการรักษา

                  เบื้องต้นผู้ที่สงสัยว่าอาจจะเป็นโรคไข้รากสาดใหญ่ เนื่องจากมีอาการที่บ่งถึงความเป็นไปได้ว่าติดเชื้อ หรือการเดินทางมาจากพื้นที่ที่มีการระบาด แนะนำให้สังเกตอาการของตนเองเป็นอย่างแรก หากมีอาการคล้ายกับอาการที่กล่าวไปข้างต้น ควรไปโรงพยาบาลเพื่อให้แพทย์วินิจฉัยอย่างละเอียดผ่านการตรวจทางน้ำเหลือง (Serological Test) การตรวจ Complement-Fixation การตรวจ Indirect Immunofluorescence Antibody: IFA และการวินิจฉัยด้วยเทคนิค Polymerase Chain Reaction: PCR

สำหรับการรักษา จะใช้ยาปฏิชีวนะที่มีคุณสมบัติในการรักษาการติดเชื้อจากแบคทีเรีย เช่น ยาดอกซีไซคลิน ยาคลอแรมเฟนิคอล ซึ่งใช้ในผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรงมาก โดยยาทั้งสองชนิดนี้จะไม่เหมาะกับผู้ป่วยตั้งครรภ์เนื่องจากตัวยาสามารถปนเปื้อนไปกับน้ำนมในช่วงให้นมบุตรและส่งผลกระทบต่อทารกได้ ดังนั้นสำหรับผู้ป่วยตั้งครรภ์แพทย์จึงเลือกใช้ยาอะซิโธรมัยซิน และควบคุมการทานยาในปริมาณที่เหมาะสมอย่างเคร่งครัด นอกจากนี้ยาตัวนี้ยังใช้ในผู้ป่วยที่ดื้อยาอย่างดอกซีไซคลินและยาคลอแรมเฟนิคอลอีกด้วย

แม้โรคไข้รากสาดใหญ่ หรือโรคสครับไทฟัส (Scrub Typhus) อาจเป็นโรคที่ทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนรุนแรงได้ง่าย และอาจทำให้เสียชีวิตได้ แต่อย่างไรก็ตาม เราทุกคนสามารถป้องกันโรคนี้ได้ได้ โดยเมื่อไปบริเวณที่มีความเสี่ยงต่อโรคเช่น ไปเดินป่า ไปในพื้นที่ที่เต็มไปด้วยต้นไม้หรือต้นหญ้า ก็ควรใส่เสื้อผ้าที่มีความมิดชิด ปกปิดผิวอย่างครอบคลุมที่สุด ถัดไปคือการปกป้องผิวด้วยผลิตภัณฑ์ทั้งที่ใช้กับผิวและเสื้อผ้า ต้องมีส่วนประกอบของสาร DEET (N,N-Diethyl-meta-toluamide) ซึ่งเป็นสารที่มักนำมาผลิตเป็นผลิตภัณฑ์ไล่แมลง หรือสมุนไพรที่สามารถไล่แมลงได้เช่นกัน

แต่สำหรับในเด็กนั้น ควรระมัดระวังไม่ให้เข้าตา เพราะจะทำให้ดวงตาระคายเคือง ควรใช้วิธีการฉีดใส่มือและค่อย ๆ ทาไปที่ตัวหรือใบหน้าตัวเด็กแทน รวมถึงอาจมีผ้าคลุมรถเข็นหรือกางมุ้งเวลานอน ก็จะช่วยลดความเสี่ยงได้ นอกจากนี้สิ่งที่ขาดไม่ได้คือการทำความสะอาดร่างกายให้หมดจด และซักเสื้อผ้าให้สะอาดด้วยผงซักฟอกความเข้มข้นสูง หลังจากการเที่ยวป่า หรือเดินทางผ่านพื้นที่ที่มีพืชพรรณขึ้นอยู่อย่างหนาแน่น

 

สำหรับลูกค้ากรุงไทย-แอกซ่าประกันชีวิตสามารถปรึกษาแพทย์ออนไลน์ได้กับบริการกรุงไทย-แอกซ่า เทเลเฮลท์ เพียงดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน Emma by AXA และกดปุ่ม “TeleHealth” พร้อมยืนยันหมายเลขกรมธรรม์ในครั้งแรกที่ใช้ รายละเอียดเพิ่มเติม คลิก https://www.krungthai-axa.co.th/th/telehealth

 

แหล่งที่มาของข้อมูล

·       โรงพยาบาลศิริราช ปิยมหาราชการุณย์
https://www.siphhospital.com/th/news/article/share/scrub-typhus

·       กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข
http://bit.ly/3gND08K

·       เว็บไซต์พบแพทย์
http://bit.ly/3VAc9Mu
https://www.pobpad.com/doxycycline
https://www.pobpad.com/chloramphenicol
https://www.pobpad.com/azithromycin

บทความสุขภาพที่สำคัญ